บาคาร่าออนไลน์


บาคาร่า (Baccarat) คืออะไร เราจะพามาทำความเข้าใจเจาะลึกเกี่ยวกับเกมไพ่นี้กัน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของประวัติความเป็นมาของบาคาร่า กติกา , วิธีการเล่น , อัตราต่อรอง และข้อมูลสำคัญของ บาคาร่า กัน ว่ามีรายละเอียดอย่างไรกันบ้าง เพื่อที่จะได้ทำความเข้าใจก่อนที่จะเล่น บาคาร่า กันอย่างจริงจัง

โดยเกมไพ่ชนิดนี้ในปัจจุบัน มีการเล่นกันอย่างแพร่หลายและได้รับความนิยมอย่างมากจากนักพนันแถบเอเชีย โดยเฉพาะนักพนันชาวไทยจะชอบกันเป็นพิเศษ เพราะมีการเล่นที่ง่าย กติกาไม่ซับซ้อน มีความละม้ายคล้ายคลึงกับเกมไพ่ป๊อกเด้ง ซึ่งมีความสนุกสนานอยู่ในตัวอย่างมาก

แม้ว่าเกมไพ่ บาคาร่า นั้น จะมีกติกาการเล่นที่ค่อนข้างจะคล้ายกับ ป๊อกเด้ง แต่ก็ไม่เหมือนกันซะทีเดียว ในการเล่นนั้นอาจจะสรุปอธิบายการย่อๆ แบบรวบรัดก็คงต้องบอกว่า

บาคาร่า สามารถที่จะวางเดิมพันได้ทั้งสองฝั่ง (เลือกฝั่งใดฝั่งหนึ่ง) ซึ่งจะมีให้เราเลือกวางเดิมพันอยู่ 2 ฝั่ง คือ เพลย์เยอร์ (ผู้เล่น) และ แบงค์เกอร์ (เจ้ามือ) หากฝั่งที่เราเลือกลงเดิมพันเอาไว้ได้ 9 แต้ม หรือ 8 แต้ม หรือ มีแต้ม สูงกว่าอีกฝั่งเราก็จะชนะได้เงินเดิมพันกลับไป

ประวัติของ บาคาร่า

สำหรับประวัติ บาคาร่า (Baccarat) นั้น ถือว่ามีความเป็นมาที่ค่อนข้างยาวนานมาก เพราะจากประวัติที่ทำการค้นคว้าและหลักฐานที่ค้นพบ ก็ทำให้เราสามารถย้อนไปได้ถึงในศตวรรษที่ 15 กันเลยทีเดียว โดยสำหรับคำว่า Baccarat (อ่านว่า แบคะรา) มันมีความหมาย คือ ศูนย์ ซึ่งจะเป็นการเรียกตามกติกา บาคาร่า ในการเล่นเกมไพ่ชนิดนี้จะมีไพ่ที่มีสัญลักษณ์ Jack, Queen, King โดยในเกมจะถูกแทนค่าด้วย 0 คือมีแต้มเท่ากับ 0 แต้ม

จากนั้น Baccarat ก็มีการเล่นการเป็นวงกว้างมากยิ่งขึ้นและมีการแพร่หลายไปทั่วยุโรป จนกระทั่งในปีคริสตศักราช 1950 เกมไพ่ บาคาร่า ก็ถูกนำไปเล่นที่อเมริกา (ลาสเวกัส) และได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่เกมไพ่ Baccarat ได้รับความนิยมในหมู่นักพนันเพิ่มมากขึ้น ทำให้ต่อมามีการแบ่งโต๊ะ บาคาร่า ตามระดับของการวางเดิมพัน หากใครที่มีการวางเดิมพันไม่สูงก็จะถูกจัดให้เล่นอยู่โต๊ะบาคาร่าที่มีการกำหนด Minimum และ Maximum การวางเดิมพันเอาไว้ สำหรับใครที่มีทุนหนาวางเดิมพันแต่ละตาค่อนข้างสูงก็จะถูกจัดไปอยู่อีกโต๊ะนึงซึ่งไม่มีการกำหนด Maximum การวางเดิมพันเเต่มีการกำหนด Minimum ไว้

โดยผู้ที่คิดค้นเกมนี้ขึ้นมา คือ ชายชาวอิตาลีที่ชื่อว่า Felix Falguirein โดยเขามีอาชีพเป็นนักพนันซึ่งการคิดค้นเกมนี้มีการสันนิษฐานว่าน่าจะมีแนวคิดมาจากพิธีกรรมของลัทธิอารยธรรมอีทรัสดัน ซึ่งมีอายุเก่าแก่มากกว่า 1,500 ปีก่อนคริสตกาล โดยพิธีกรรมนี้จะถูกจัดขึ้นเพื่อที่จะเฟ้นหาหญิงสาวมาทำหน้าที่เป็นนักบวชในลัทธิ ซึ่งจะใช้วิธีการเสี่ยงทาย เลือกหญิงสาวจากลูกเต๋าที่มีการออกแบบมาเป็นพิเศษ โดยจะมีทั้งหมด 9 หน้า โดยลูกเต๋าในแต่ละหน้านั้นก็จะมีหมายเลขกำกับอยู่ตั้งแต่หมายเลข 1 ไปจนถึง 9 หากหญิงสาวคนไหนที่มีการทอยลูกเต๋าแล้วได้แต้ม 9 หรือ 8 ก็จะเป็นผู้โชคดีรับหน้าที่ในลัทธิ สำหรับเหตุผลว่าทำไมลัทธินี้จึงให้ความสำคัญกับเลข 9 เป็นเพราะลัทธิที่นี้มีการนับถือเทพเจ้าอยู่ 9 องค์นั้นเอง ด้วยความที่มีประวัติมีความขลังและมีความคลาสสิกซึ่งน่าจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ Felix Falguirein (เฟลิกซ์ ฟาลกูยเรน) นำเอาไอเดียนี้มาพัฒนาเป็น เกมบาคาร่า

ในส่วนของเกมนั้น ก็ยังจะมีรายละเอียดต่างๆ ที่สำคัญ และผู้ที่สนใจเกมไพ่บาคาร่าก็จำเป็นที่จะต้องทราบเพื่อจะได้รู้และเล่นเกมชนิดนี้ได้อย่างถูกต้อง ดังต่อไปนี้

วิธีการเล่น บาคาร่าออนไลน์

การเล่น บาคาร่าออนไลน์ นั้นคล้ายๆ กับการเล่นป๊อกเด้ง นั่นคือ นักเดิมพันสามารถเลือกได้ว่าจะเดิมพันไพ่ฝั่งผู้เล่นเรียกว่าฝั่ง “Player” หรือฝั่งเจ้ามือเรียกว่าฝั่ง “Banker” โดยฝ่ายไหนจะชนะขึ้นอยู่กับแต้มบนหน้าไพ่ที่เปิดจากพนักงานสุดเซ็กซี่ โดยจะหงายไพ่ 2 หรือ 3 ใบทั้งฝั่ง Player และ Banker โดยนักเดิมพันจะต้องเดิมพันฝั่งใดฝั่งหนึ่งภายในระยะเวลาที่กำหนด (ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 10-40 วินาที) เมื่อครบเวลาที่กำหนด นักเดิมพันจะไม่สามารถเดิมพันในรอบนั้นได้ ต้องรอรอบถัดไป เมื่อหมดเวลาเดิมพันเจ้ามือจะทำการเปิดไพ่เพื่อวัดผลโดยฝ่ายไหนมีแต้มมากกว่า (แต้มสูงสุดคือ 9 แต้ม) จะเป็นฝ่ายชนะ และได้รับเงินรางวัล นอกจากนั้นการเดิมพันไม่ได้มีแค่ 2 ฝั่ง นักลงทุนยังสามารถเดิมพันได้ ดังนี้

  • เดิมพันไพ่เสมอ (Tie) คือ แต้มของฝั่ง Player และ Banker มีแต้มเท่ากัน
  • เดิมพันพันไพ่เล็ก (Small) คือ ไพ่ทั้ง 2 ฝั่ง รวมกันออกเพียงแค่ 4 ใบ
  • เดิมพันไพ่ใหญ่ (Big) คือ ไพ่บนโต๊ะทั้ง 2 ฝั่ง รวมกันออกมากกว่า 4 ใบ (5-6 ใบ นั่นเอง)
  • เดิมพัน Player pair คือ ไพ่ 2 ใบแรกออกคู่ หรือหน้าไพ่เหมือนกันของฝั่ง Player
  • เดิมพัน Banker pair คือ ไพ่ 2 ใบแรกออกคู่ หรือหน้าไพ่เหมือนกันของฝั่ง Banker

วิธีนับแต้ม บาคาร่า

การนับแต้ม บาคาร่าออนไลน์ นั้นง่ายมาก เพียงผู้เล่นทำความเข้าใจไม่ถึง 2 นาที ก็สามารถเดิมพันได้ทันที

  • ไพ่ A จะมีค่าเป็น 1 แต้ม
  • ไพ่ 2-9 จะมีค่าเท่ากับจำนวนเลขบนหน้าไพ่
  • ไพ่ 10 จะมีค่าเป็น 0 แต้ม
  • ไพ่ฝรั่ง J Q K จะมีค่าเป็น 0 แต้มเช่นกัน

กฎกติกา ของ บาคาร่าออนไลน์

เมื่อรู้วิธีเล่น บาคาร่าออนไลน์ และวิธีนับแต้มแล้ว ยังมีกฎกติกาที่ต้องทำความเข้าใจเพิ่มเติม เพื่อให้นักเดิมพันได้รับเงินรางวัลมากขึ้น โดยในแต่ละเกมนั้น แต่ละฝ่ายจะได้ไพ่ฝั่งละ 2 ใบ ไพ่ใบแรกกับใบที่สามจะแจกให้แก่ฝั่งผู้เล่น (Player) ส่วนใบที่สองกับใบที่สี่จะแจกให้ฝั่งเจ้ามือ (Banker) แล้วถ้าฝั่งไหนต้องจั่วไพ่ใบที่ 3 เพิ่มต้องมีเงื่อนไข ดังต่อนี้

ฝั่ง Player

  • ถ้าแต้ม 2 ใบแรกรวมกัน ได้ต่ำกว่า 5 (0 ,1 ,2 ,3 ,4 ,5 ) แต้ม จะต้องจั่วเพิ่มอีก 1 ใบ
  • ถ้าได้แต้ม 6-7 แต้ม ไม่ต้องจั่วเพิ่ม
  • ถ้าได้แต้ม 8-9 แต้ม เรียกว่า ป๊อก

ฝั่ง Banker

  • ถ้าแต้ม 2 ใบแรกรวมกันได้น้อยกว่า 2 แต้ม จะต้องจั่วเพิ่มทันที 1 ใบ
  • ฝั่ง Banker จั่วใบที่สามเพิ่มเมื่อ ฝั่ง Banker ได้สองใบแรกรวมกันได้ 3 แต้ม และฝั่ง Player จั่วใบที่สามเป็นแต้ม 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 9, 0 (ยกเว้น 8)
  • ฝั่ง Banker จั่วใบที่สามเพิ่มเมื่อ ฝั่ง Banker ได้สองใบแรกรวมกันได้ 4 แต้ม และฝั่ง Player จั่วใบที่สามเป็นแต้ม 2, 3, 4, 5, 6, 7 (ยกเว้น 1, 8, 9, 0)
  • ฝั่ง Banker จั่วใบที่สามเพิ่มเมื่อ ฝั่ง Banker ได้สองใบแรกรวมกันได้ 5 แต้ม และฝั่ง Player จั่วใบที่สามเป็นแต้ม 4, 5, 6, 7 (ยกเว้น 1, 2, 3, 8, 9, 0)
  • ฝั่ง Banker จั่วใบที่สามเพิ่มเมื่อ ฝั่ง Banker ได้สองใบแรกรวมกันได้ 6 แต้ม และฝั่ง Player จั่วใบที่สามเป็นแต้ม 6, 7 (ยกเว้น 1, 2, 3, 4, 5, 8, 9, 0)
  • ถ้าได้แต้ม 7-9 แต้ม ไม่ต้องจั่วเพิ่ม